ระบบแจ้งเตือน : ระบบจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพต่อเมื่อทำงานบน IE Version 8.0 ขึ้นไป [Download]
หน้าหลักระบบบริหารจัดการความรู้ ทีมงานพัฒนาระบบ ทีมงานพัฒนาระบบ
E-Mail(มหาวิทยาลัย)

Password

** รหัสผ่านเดียวกับที่ใช้ในระบบ e-mail มหาวิทยาลัย
 
รายละเอียดบทความ
ตอนที่ 1 : ข้อมูลผู้เขียนบทความ
รหัสอ้างอิง : 1385
ชื่อสมาชิก : ปาณิศา วงค์ใส
เพศ : หญิง
อีเมล์ : panisa@mju.ac.th
ประเภทสมาชิก : บุคลากรภายใน [สังกัด]
ลงทะเบียนเมื่อ : 14/8/2556 9:56:13
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 14/8/2556 9:56:13
URL สำหรับอ้างอิงถึงหน้านี้
ตอนที่ 2 : ระดับความชอบที่ผู้อ่านมีต่อบทความนี้
ชอบ  19  คน ไม่ชอบ  0  คน
ตอนที่ 3 : รายละเอียดบทความ
"ดูแล(ตา)ตัวเองด้วยนะ..."
การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเระยะเวลาที่ยาวนาน ก่อให้เกิดอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) เรามารู้จักดูแลและป้องกันตัวเองกันเถอะค่ะ

 

“ดูแล(ตา)ตัวเองด้วยนะ...”

ผู้เขียน : ปาณิศา  คงสมจิตต์

นักเอกสารสนเทศ : ห้องสมุดคณะผลิตกรรมการเกษตร

 

            แทบจะกล่าวได้ว่าในสมัยปัจจุบัน โดยเฉพาะคนยุคใหม่ที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการทำงานหรือชีวิตประจำวันที่ต้องข้องเกี่ยวกับโลกของโซเชียล ออนไลน์ มักจะหลีกหนีไม่พ้นในการที่จะต้องใช้สายตาผ่านหน้าจอต่างๆ อาทิเช่น จอคอมพิวเตอร์  จอสมาร์ทโฟน  จอแท็บเล็ต  จอโทรทัศน์ เพื่อที่จะดูหนัง  ฟังเพลง  เล่นเกม  ดูซีรีส์  ส่งอีเมล์  เล่นเฟซบุ๊คส์  ส่งข้อความ  เล่นไลน์ ฯลฯ

            กิจกรรมที่หลากหลายเหล่านี้  ล้วนแล้วแต่ทำให้เราต้องใช้สายตาผ่านหน้าจอต่าง ๆ โดยเฉลี่ยถึงวันละ 8 – 10 ชั่วโมง ก็จะมีผลทำให้กล้ามเนื้อลูกตาของเราต้องทำงานหนัก  จากสถิติพบว่าถ้าคนเราใช้สายตาอยู่กับหน้าจอนานต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน  จะทำให้เกิดอาการตาเบลอ  ตาแห้ง  แสบตา  สู้แสงไม่ได้  ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่รู้ตัวและหากใช้สายตามากขึ้นก็จะเกิดอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer  Vision  Syndrome) ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดผลเสียต่อสายตาแล้ว  ก็ยังจะมีอาการของกล้ามเนื้อด้วย เช่น ปวดศีรษะ  ปวดเมื่อยบ่า  ต้นคอ  โดยถ้ามีอาการปวดมากก็จะทำให้นอนไม่หลับ และถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยแล้วก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอื่นตามมาได้

            สำหรับอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer  Vision  Syndrome) มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น เกิน 2- 3 ชั่วโมง มักจะมีอาการปวดตา  ตาเมื่อยล้า  ตาแห้ง  แสบตา  ตาพร่ามัว  ตาสู้แสงไม่ได้  ปวดเมื่อยบ่า  ไหล่  คอ  หรือปวดหลัง  และบ่อยครั้งที่จะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย  อาการทางสายตาเหล่านี้เกิดจากการจ้องดูข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป  เรียกกลุ่มอาการเหล่านี้ว่า “คอมพิว เตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer  Vision  Syndrome)”  หรือ “โรคซีวีเอส”  โดยอาการเหล่านี้พบได้ถึงร้อยละ 75 ของบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์

            ในอดีตโรคทางสายตามักจะเกิดกับผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี ขึ้นไป แต่ในยุคสมัยนี้ ที่จัดว่าเป็นยุค  Gen Me  ( Me  Generation  คนในยุค Gen Me จะมีลักษณะที่อยากมีตัวตนในสังคม  อยากอวดเรื่องของตัวเองให้คนอื่นรับรู้  มีความมั่นใจในตัวเองและอยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้าน   อยากโพสต์รูป   โพสต์ข้อความ   กดแชร์   เรียกไลค์ (Like)   สร้างกระแสให้คนอื่นสนใจตัวเอง ) วิถีชีวิตของคนยุค Gen Me ที่อยู่ในกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มวัยรุ่นต้องใช้เทคโนโลยีทางด้านไอทีกันค่อนข้างมาก  จึงส่งผลให้สุขภาพทางสายตาของคนไทยมากกว่า 15 ล้านคน มีสายตาที่ผิดปกติ  โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะมีคนไทยตาบอดและสายตาเลือนรางไม่ต่ำว่า 1 ล้านคน  ผู้เขียนอยากให้คุณผู้อ่านได้สำรวจพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองดูก่อนว่าเราจัดเข้าข่ายอยู่ในกลุ่มคนที่จำเป็นต้องอยู่หน้าจอต่างๆ เป็นเวลานานหรือไม่  หากจำเป็นก็จะต้องรู้จักดูแลป้องกันถนอมสายตาของตัวเราเอง  ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

            ลองมาดูวิธีการช่วยป้องกันและดูแลถนอมสายตากันค่ะ....

 

            1. เมื่อต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้หมั่นพักสายตาทุก  15  นาที หรือกะะพริบตาให้บ่อยขึ้น

            2. ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอเหมาะหรือนั่งทำงานในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ

            3. ปรับขนาดตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่ขึ้น  อ่านได้ง่ายชัดเจน

            4. หากดวงตาเกิดอาการล้า ให้นวดคลึงเบาๆ และควรบริหารดวงตาด้วยการกลอกตาไปรอบๆ เป็นวงกลม สัก 5 – 6 รอบ และใช้นิ้วนางทั้ง 2 นิ้ว แตะที่หัวตาแต่ละข้าง คลึงเบาๆ แบบกดจุด นานประมาณ 1 – 2 วินาที

            5 รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ เพื่อช่วยบำรุงสายตาและทานผัก-ผลไม้ ต่างๆ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอรี่ เช่น สตรอเบอรี่  ราสเบอรี่  ฯลฯ ซึ่งมีแอนโธไซยานินและสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตาและช่วยถนอมดวงตาไม่ให้โดนทำลาย

            ผู้เขียนก็หวังว่า  บทความเรื่องนี้ก็คงพอเป็นแนวทางให้คุณผู้อ่านที่ต้องใช้ชีวิตติดอยู่กับหน้าจอนานๆ นำไปประยุกต์และดูแล(ตา)ตัวเอง กันได้บ้างนะคะ  ฝากทิ้งท้ายด้วยภาษิตที่บอกว่า 

“ อัตตาหิ  อัตตาโนนาโถ    ตน...แล  เป็นที่พึ่งแห่งตน”   ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ......

 

 

 

*แหล่งอ้างอิง            

            - คอลัมน์หมายเหตุประชาชน  . หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ :  หน้า 8 , ฉบับวันที่ 27  กุมภาพันธ์ 2557.

- คอลัมน์ชีวิตและสุขภาพ  . หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ :  หน้า 6 , ฉบับวันที่ 9 มีนาคม 2557.

- guru.sanook.com/8053/โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม- (Computer – Vision-  Syndrome) (ออนไลน์)  7 พฤษภาคม 2557.

- policeprinting.police.go.th/ppb/?p=1297(ออนไลน์)  7 พฤษภาคม 2557.

- talk.mthai.com/topic/384209 (ออนไลน์)  7 พฤษภาคม 2557.

 

 

 

คำสำคัญ : Gen Me คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม โรคซีวีเอส
กลุ่มบทความ : บทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วไป
หมวดหมู่ : การแพทย์ สุขภาพ สุขภาวะ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 4941  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
วันที่เขียน 7/5/2557 16:41:05  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 25/4/2567 0:09:40
ตอนที่ 4 : รายการความคิดเห็นทั้งหมดที่มีต่อบทความนี้
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด

ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร : Management Information System [MIS]
รับผิดชอบระบบ โดย ศูนย์เทคโนโลยีสารนสนเทศ มหาวิทยาลัย
ติดต่อสอบถาม : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย 63 หมู่ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290